- หมายถึง การประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ จำแนกความเสียหายได้เป็นความเสียหายที่เกิดต่อรถยนต์คันเอาประกันภัยและความเสียหาย ที่เกิดจากรถยนต์ไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
- ความบาดเจ็บ เสียชีวิตของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความเสียหาย/สูญหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย*
- ความบาดเจ็บ เสียชีวิตของผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัย
- ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีทางแพ่ง
*ความเสียหาย/สูญหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย
- บริษัทประกันภัย ซ่อมแซมหรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ความเสียหายหรือสูญหายใดๆ ต่อรถยนต์รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานติดประจำอยู่กับรถยนต์ก่อนการรับประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายในช่วงระยะเวลาเอาประกันภัยบริษัทประกันภัยจะคุ้มครองชดใช้ตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยซึ่งได้ระบุไว้ตามหน้าตารางกรมธรรม์ และคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการขนย้ายรถยนต์ไปยังสถานที่ซ่อมที่ใกล้ที่สุด เมื่อเกิดความเสียหาย แต่ไม่เกินร้อยละ 20 ของค่าซ่อม
ความคุ้มครองเพิ่มเติม (เอกสารแนบท้าย) ของรถประกันภัยที่สามารถซื้อเพิ่มได้
- การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้ขับขี่ และ/หรือ ผู้โดยสาร
- ค่ารักษาพยาบาล
- การประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แบ่งออกเป็น 2 แบบ
- กรมธรรม์แบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ (UN-Named Driver) เป็นกรมธรรม์แบบเดิมที่คุ้มครองผู้ขับขี่คนใดก็ได้
- กรมธรรม์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ (Named Driver) ซึ่งท่านจะได้รับส่วนลด 5 – 20% ขึ้นอยู่กับอายุผู้ขับขี่ สามารถลดค่าเบี้ยลง ดังนี้

ระบุได้ 2 ท่าน หากเกิดเหตุผู้ขับขี่นอกเหนือจากระบะไว้เป็นฝ่ายผิด ผู้เอาประกันภัยต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกก่อน ดังนี้
- 6,000 บาท แรกสำหรับความเสียหายรถยนต์คันเอาประกันภัย ส่วนเกินบริษัทประกันภัยรับผิดชอบ
- 2,000 บาท แรกสำหรับความเสียหายทรัพย์สินคู่กรณี ส่วนเกินบริษัทประกันภัยรับผิดชอบ
ประเภทการประกันภัยรถยนต์ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท
การประกันภัยประเภท 1 : ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากการใช้รถยนต์ ดังนี้
- ความคุ้มครองเสียหาย สูญหาย และไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
- ความคุ้มครองต่อความบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยต่อบุคคลภายนอก
- ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
การประกันภัยประเภท 2 : ความคุ้มครองความเสียหายจากการใช้รถยนต์ ดังนี้
- ความคุ้มครองรถหาย และไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
- ความคุ้มครองต่อความบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยต่อบุคคลภายนอก
- ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
การประกันภัยประเภท 3 : ความคุ้มครองความเสียหายจากการใช้รถยนต์ ดังนี้
- ความคุ้มครองต่อความบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยต่อบุคคลภายนอก
- ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
การประกันภัยประเภท 4 : ความคุ้มครองความเสียหายจากการใช้รถยนต์ ดังนี้
- รับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 100,000 บาท/อุบัติเหตุแต่ละครั้ง
การประกันภัยประเภท 5 : แบบคุ้มครองเฉพาะภัย แบ่งเป็น 2 แบบ
แบบ 2+ ฝ่ายผิดจ่ายก่อน 2,000 บาท*
- ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์
- ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก
แบบ 3+ ฝ่ายผิดจ่ายก่อน 2,000 บาท*
- ความรับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก
ตารางเปรียบเทียบ 3+, 2+

*กรณีที่ที่ชนกับยานพาหนะทางบกและเป็นฝ่ายผิดจะต้องเสียความเสียหายส่วนแรกต่อความเสียของตัวรถยนต์ผู้เอาประกันภัยไม่เกิน 2,000 บาท*
ข้อยกเว้นกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ไม่คุ้มครอง
ข้อ 2. การยกเว้นทั่วไป กรมธรรม์นี้ไม่คุ้มครองความเสียหายหรือความรับผิดจาก สงคราม สงครามกลางเมือง การปฏิวัติ ยึดอำนาจ ประชาชนก่อความวุ่นวาย ต่อต้านรัฐบาล วัตถุอาวุธปรมารณู การแผ่รังสี กัมมันตภาพรังสี
ข้อ 5. การยกเว้นรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองสูญหาย ไฟไหม้อันเกิดจาก
- ความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากการลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์โดยบุคคลได้รับมอบหมายหรือครอบครองรถยนต์ ตามสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาจำนำ หรือโดยบุคคลที่จะกระทำสัญญาดังกล่าวข้างต้น
- การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตที่คุ้มครอง การยกเว้น : การขยายเพิ่มเติมเอกสารแนบท้าย ไม่คุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือการทุพพลภาพ อันเกิดจากการกระทำผิดอาชญากรรมสถานหนักโดยผู้ได้รับความคุ้มครองนั้น
ข้อ 7. การยกเว้นทั่วไป ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจาก
- การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตคุ้มครอง
- การใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยาเสพติด เป็นต้น
- การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
- การใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย หรือเป็นรถ
- ลากจูงโดยสภาพ หรือรถที่มีระบบห้ามล้อเชื่อมโยงถึงกัน
- ความรับผิดซึ่งเกิดจากสัญญาที่ผู้ขับขี่ทำขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีสัญญานั้นแล้วความรับผิดของผู้ขับขี่จะไม่เกิดขึ้น การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ข้อ 7. การยกเว้นความเสียหายต่อรถยนต์ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
- การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์
- การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ หรือการเสียหรือการหยุดเดินของเครื่องจักรกลไก หรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายโดยตรงต่อรถยนต์ อันเกิดจากการบรรทุกน้ำหนัก หรือจำนวนผู้โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายต่อยางรถยนต์ อันเกิดจากการฉีกขาด หรือการระเบิดเว้นแต่กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นต่อส่วนอื่นของรถยนต์ในเวลาเดียวกัน
- ความเสียหายอันเกิดจากการขาดการใช้รถยนต์ เว้นการขาดการใช้รถยนต์นั้นเกิดจากบริษัทประวิงการซ่อม หรือซ่อมล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น โดยไม่มีเหตุผลอันควร
ข้อ 8. การยกเว้นการใช้ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
- การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตที่คุ้มครอง
- การใช้รถยนต์ไปในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยาเสพย์ติด เป็นต้น
- การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
ข้อ 9. การยกเว้นการใช้อื่นๆ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง
- การใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย หรือเป็นรถลากจูงโดยสภาพ หรือรถที่มีระบบห้ามล้อเชื่อมโยงถึงกัน
- การใช้รถยนต์นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในตารางในขณะเกิดอุบัติเหตุ
- การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
- การขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับอนุญาตขับขี่ใดๆ หรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมาย หรือใช้ใบขับขี่จักรยานยนต์ไปขับขี่รถยนต์
การยกเว้นตามข้อ 9.1 9.2 9.3 9.4 จะไม่นำมาใช้ในกรณีที่มีความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้น และมิใช้ความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์ที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์แต่ในกรณีที่เป็นการประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ การยกเว้นตาม 9.4 จะนำมาใช้บังคับ หากผู้ขับขี่ในขณะเกิดความเสียหาย เป็นผู้ขับขี่ที่ถูกระบุชื่อในกรมธรรม์
ข้อมูลที่ต้องการในการรับประกันภัยรถยนต์
ชนิดของรถยนต์
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
- รถยนต์โดยสาร
- รถยนต์บรรทุก
- รถยนต์ลากจาก
- รถพ่วง
- รถจักรยานยนต์
- รถยนต์แท็กซี่
- รถยนต์อื่น
ลักษณะการใช้รถยนต์
- ใช้ส่วนบุคคล
- ใช้เชิงพาณิชย์
- ใช้รับจ้างสาธารณะ
- ใช้เชิงพาณิชย์พิเศษ (น้ำมัน,กรด,แก๊ส ฯลฯ)
ทุนเอาประกันภัย
- จำนวนเงินเอาประกันภัย ไม่ควรเกินหรือต่ำกว่า 80% ของราคาตลาดในวันที่ขอเอาประกันภัย
ข้อมูลผู้เอาประกัน
- ชื่อ
- ที่อยู่
- อาชีพ
- บัตรประชาชน
ข้อมูลรถยนต์
- ยี่ห้อรถยนต์ รุ่น
- ทะเบียน
- ขนาดซีซี หรือ จำนวนที่นั่ง หรือน้ำหนักบรรทุก
- ปีจดทะเบียน
- เลขเครื่องยนต์
- เลขตัวถังรถยนต์
อื่นๆ
- ประวัติการทำประกันภัย (ถ้ามี)
- จำนวนคันที่ทำประกันภัย
- ผู้รับผลประโยชน์ (ถ้ามี กรณีผ่อนชำระเช่าซื้อรถยนต์)
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์